Follow us                        เข้าสู่ระบบ     
ฝ่ายขาย vs บัญชี: ยุติศึกชิง Credit Term ด้วย Workflow อัจฉริยะ
เปลี่ยนจุดขัดแย้งที่ฉุดรั้งธุรกิจ สู่ระบบอนุมัติที่รวดเร็ว ปลอดภัย และปลดล็อกการเติบโต
4 July, 2025 by
Taaxteam Post

บทนำ: 'ศึกชิงเครดิต' สงครามที่ไม่มีใครชนะในออฟฟิศ SME

ลองจินตนาการภาพตาม: พนักงานขายดาวรุ่งของคุณเพิ่งปิดดีลใหญ่กับลูกค้ารายใหม่ได้สำเร็จ ทุกคนในทีมกำลังจะฉลอง แต่แล้วความดีใจก็ต้องสะดุด เมื่อใบสั่งขาย (Sales Order) ต้องไปติดค้างอยู่ที่โต๊ะของผู้จัดการฝ่ายบัญชีนานเกือบสัปดาห์ เพียงเพื่อรออนุมัติ Credit Term 30 วัน เพราะผู้จัดการดันลาพักร้อนพอดี

สถานการณ์นี้คือภาพสะท้อนของปัญหาคลาสสิกในหลายองค์กร SME มันคือความขัดแย้งระหว่าง ฝ่ายขาย ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการให้เครดิตเพื่อปิดการขายให้เร็วที่สุด และ ฝ่ายบัญชี ที่มีภารกิจหลักในการรักษาสภาพคล่องและป้องกันความเสี่ยงหนี้สูญ สงครามเงียบนี้ไม่เพียงแต่สร้างความตึงเครียดในที่ทำงาน แต่ยังเป็นตัวฉุดรั้งการเติบโตของธุรกิจโดยตรง และนี่คือปัญหาที่เราสามารถแก้ไขได้

วิเคราะห์ต้นตอ: ทำไมฝ่ายขายและฝ่ายบัญชีถึงมองคนละมุม?

ความขัดแย้งนี้ไม่ได้เกิดจากใครคนใดคนหนึ่งทำผิด แต่เกิดจากการที่ทั้งสองฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดตาม KPI ที่ได้รับ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วมีเป้าหมายที่สวนทางกันหากไม่มีระบบกลางมาเชื่อมโยง ลองดูตารางเปรียบเทียบมุมมองของทั้งสองฝ่าย

หัวข้อ ฝ่ายขาย (Sales) ฝ่ายบัญชี (Accounting)
เป้าหมายหลัก สร้างยอดขายให้ได้สูงสุด (Maximize Revenue) รักษาสภาพคล่องทางการเงิน (Maintain Healthy Cash Flow)
KPI ยอดขาย, จำนวนลูกค้าใหม่, ส่วนแบ่งการตลาด กระแสเงินสด, อายุลูกหนี้เฉลี่ย (DSO), อัตราหนี้สูญ
มุมมองต่อ Credit Term เครื่องมือสำคัญในการแข่งขันและปิดการขาย ความเสี่ยงทางการเงินที่ต้องควบคุมอย่างรัดกุม
ความเสี่ยงที่กังวล การสูญเสียลูกค้าให้คู่แข่งเพราะเงื่อนไขไม่ดีพอ การเกิดหนี้สูญ (Bad Debt) และปัญหาสภาพคล่อง

เมื่อไม่มีระบบที่ชัดเจน การตัดสินใจจึงขึ้นอยู่กับบุคคล ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งและความล่าช้าที่ไม่จำเป็น นี่คือจุดที่ ระบบ ERP สำหรับ SME ที่มี Workflow อัจฉริยะเข้ามามีบทบาทสำคัญ

ต้นทุนที่มองไม่เห็น: ความเสียหายจากกระบวนการอนุมัติแบบเดิม

การอนุมัติ Credit Term แบบ Manual ที่ต้องเดินเอกสาร ส่งอีเมล หรือรอการอนุมัติแบบตัวต่อตัว สร้างความเสียหายมากกว่าแค่เรื่องเวลาที่เสียไป แต่มันคือต้นทุนแฝงที่กัดกินศักยภาพของธุรกิจคุณ:

  • โอกาสทางการขายที่สูญเสียไป (Lost Sales Opportunities): ทุกนาทีที่ลูกค้ารอคำตอบ คือโอกาสที่คู่แข่งจะเข้ามาเสนอเงื่อนไขที่ดีกว่าและเร็วกว่า
  • ต้นทุนค่าเสียเวลาของพนักงาน (Wasted Employee Hours): พนักงานขายใช้เวลา 10-15% ในการติดตามเรื่องภายใน แทนที่จะได้ใช้เวลานั้นไปหาลูกค้าใหม่
  • ความเสี่ยงหนี้สูญที่สูงขึ้น (Increased Bad Debt Risk): การอนุมัติที่เร่งรีบหรือไม่มีข้อมูลประกอบเพียงพอ อาจทำให้บริษัทปล่อยเครดิตให้ลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงโดยไม่รู้ตัว
  • ภาพลักษณ์แบรนด์ที่ไม่เป็นมืออาชีพ (Unprofessional Brand Image): กระบวนการภายในที่ช้าและสับสนสะท้อนออกมาสู่ภายนอก ทำให้ลูกค้าขาดความเชื่อมั่น
  • การตัดสินใจที่อิงจากความรู้สึกไม่ใช่ข้อมูล (Emotion-based Decisions): เมื่อไม่มีเกณฑ์ที่ชัดเจน การอนุมัติอาจขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือแรงกดดันเฉพาะหน้า มากกว่าการวิเคราะห์ข้อมูลความเสี่ยงจริง

ทางออกที่ลงตัว: สร้างสมดุลด้วยระบบอนุมัติ Credit Term อัตโนมัติ

ทางออกของปัญหานี้คือการนำ ระบบ Workflow อัตโนมัติเข้ามาเป็นตัวกลาง เพื่อสร้างกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน โปร่งใส และรวดเร็วสำหรับทุกคน ระบบนี้จะเปลี่ยนกระบวนการที่วุ่นวายให้กลายเป็นขั้นตอนง่ายๆ ที่ตรวจสอบได้ ดังนี้:

  1. ขั้นตอนที่ 1: ฝ่ายขายยื่นคำขอผ่านระบบ พนักงานขายคีย์ข้อมูลการขอ Credit Term สำหรับลูกค้าใหม่หรือการขอเพิ่มวงเงินสำหรับลูกค้าเก่าผ่าน ระบบ CRM หรือระบบขายที่เชื่อมต่อกัน
  2. ขั้นตอนที่ 2: ระบบตรวจสอบข้อมูลลูกค้าอัตโนมัติ ระบบจะดึงข้อมูลประวัติการชำระเงิน, ยอดขายสะสม, และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจาก ระบบบัญชี เพื่อประกอบการพิจารณาเบื้องต้น
  3. ขั้นตอนที่ 3: ระบบส่งเรื่องอนุมัติตามเงื่อนไข ระบบจะส่งคำขอไปยังผู้อนุมัติที่ถูกต้องตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้โดยอัตโนมัติ เช่น 'ยอดสั่งซื้อน้อยกว่า 50,000 บาท ให้หัวหน้าฝ่ายขายอนุมัติ' หรือ 'ยอดสั่งซื้อมากกว่า 50,000 บาท ส่งหาผู้จัดการฝ่ายบัญชี'
  4. ขั้นตอนที่ 4: ผู้มีอำนาจอนุมัติ/ปฏิเสธผ่านมือถือ ผู้อนุมัติจะได้รับการแจ้งเตือนและสามารถดูข้อมูลประกอบการตัดสินใจ พร้อมกดอนุมัติหรือปฏิเสธได้ทันทีผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
  5. ขั้นตอนที่ 5: แจ้งผลให้ทุกฝ่ายทราบอัตโนมัติ เมื่อการอนุมัติเสร็จสิ้น ระบบจะส่งการแจ้งเตือนไปยังฝ่ายขาย, ฝ่ายบัญชี, และคลังสินค้าโดยอัตโนมัติ เพื่อให้กระบวนการขายดำเนินต่อไปได้ทันทีโดยไม่มีการสะดุด

เปลี่ยนจุดขัดแย้งให้เป็นแต้มต่อ: 4 ประโยชน์ที่จะได้รับทันที

การปรับใช้ระบบอัตโนมัติไม่ได้เป็นเพียงการแก้ปัญหาภายใน แต่คือการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่สำคัญ การบริหารจัดการ กระแสเงินสดของบริษัท จะมีประสิทธิภาพขึ้น และนี่คือสิ่งที่ธุรกิจของคุณจะได้รับ

From Conflict to Advantage: ระบบอนุมัติ Credit Term ที่ดีไม่ได้แค่ลดความขัดแย้ง แต่ยังเปลี่ยนข้อมูลความเสี่ยงให้เป็นเครื่องมือในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ช่วยให้คุณเสนอ Credit Term ที่เหมาะสมกับลูกค้าที่ใช่ได้อย่างมั่นใจและรวดเร็วกว่าคู่แข่ง

กรณีศึกษา: จากโต๊ะบัญชีที่วุ่นวายสู่ Dashboard ตัดสินใจใน 5 นาที

บริษัท ABC ดิสทริบิวชั่น จำกัด (นามสมมติ) เคยประสบปัญหาคอขวดในการอนุมัติเครดิตอย่างรุนแรง ฝ่ายขายมักจะเสียโอกาสเพราะรอการอนุมัตินานเกินไป ในขณะที่ฝ่ายบัญชีต้องรับความเสี่ยงจากการอนุมัติภายใต้แรงกดดัน หลังจากที่ได้นำ ระบบอนุมัติสินเชื่อ แบบ Workflow เข้ามาใช้ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นสามารถวัดผลได้อย่างชัดเจน

ตัวชี้วัด (Metric) ก่อนใช้ระบบ (Before) หลังใช้ระบบ (After)
เวลาเฉลี่ยในการอนุมัติเครดิต 2-5 วันทำการ เฉลี่ย 3 ชั่วโมง
จำนวน Order ที่ติดค้างรออนุมัติ เฉลี่ย 15-20 รายการ/วัน น้อยกว่า 2 รายการ/วัน
ความพึงพอใจของฝ่ายขาย (คะแนนเต็ม 10) 4/10 9/10

ผลลัพธ์นี้แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีสามารถเปลี่ยนกระบวนการที่เคยเป็นจุดอ่อนให้กลายเป็นจุดแข็งได้อย่างไร สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดู Case Study การนำระบบ Workflow มาใช้จริงได้ที่นี่

หยุดสงครามในออฟฟิศ เปลี่ยนความขัดแย้งให้เป็นแต้มต่อทางธุรกิจ

กระบวนการที่ติดขัดคือตัวฉุดรั้งการเติบโตของธุรกิจคุณ ให้ผู้เชี่ยวชาญของเราช่วยออกแบบ Workflow การอนุมัติ Credit Term ที่เหมาะสมกับธุรกิจคุณโดยเฉพาะ เพื่อให้ฝ่ายขายปิดดีลได้ไวขึ้น และฝ่ายบัญชีบริหารเงินสดได้อย่างมั่นใจ

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี ดู Case Study การใช้งานจริง
Taaxteam Post 4 July, 2025
Share this post
Tags